คิดว่า มนุษย์เรามีสติที่จะเข้าใจ เฉพาะมิติ กว้าง ลึก สูง แตในจักรวาลอาจมีมิติเป็นร้อยๆ มิติ ดังนั้น ถ้าใครส่งสัญญาณมาในมิติอื่น เราก็รับรู้ไม่ได้ การรับรู้จึงมีขอบเขต ความสามารถของมนุษย์ถูกจำกัดด้วยเหตุผลสองประการดังกล่าว ดังนั้น เราจึงถ่อมใจ ยอมรับว่า มีอำนาจที่เหนือกว่าเรา ที,ไม่จำกัด เราเรียกพระองค์ผู้นั้นว่า พระเจ้า เราจะพ้นขีดจำกัดด้วยการพึ่งพิงพระเจ้าด้วยความเชื่อที่ว่ามนุษย์สามารถเรียนรู!ด้ จึงมีระบบการคิกษาขึ้นมาเช่นเด็กเกิดมาอ่านหนังสือไม่ออก แต่เราเชื่อว่าภายในสมองมีศักยภาพที่จะเรียนได้ จึงเกิดการสอนขึ้นมา เกิดโรงเรียน เกิดมีการฝึกฝนต่างๆ ในเรื่องของจิตใจ เรื่องของจริยธรรมก็เหมือนกัน การที่ทุกศาสนาสอนให้คนทำดีเพราะเชื่อว่า มนุษย์มีศักยภาพในการทำดีได้ดร. เสรี หล่อกันภัย ให้ทัศนะเรื่องศักยภาพของการทำดีว่า มนุษย์ทั่วไปคิดว่าการทำดีจะได้รางวัล ทำไม่ดีต้องถูกลงโทษ โดยลึกๆ แล้วมนุษย์มีความสามารถที่จะวิเคราะห์ แล้วเข้าใจว่า ทำอย่างนี้แล้วดี คือเป็นศักยภาพที่พิเศษออกมา เช่น กรณีเด็กเล็กๆ เมื่อได้รับคำชม เขาจะรู้ว่าสิงนี้เป็นสิงที่ดี แต่ถ้าไม่ได้รับคำซม เขาก็สามารถรับรู้!ด้ เมื่อเขาได้รับการทำดีของเรา เช่น การกอดของพ่อแม่ เด็กก็'จะรู้สืกว่าดี อบอุ่น ในทำนองเดียวกัน เขาก็จะไปกอดเด็กคนอื่น ถ่ายทอดความรักที่อบอุ่นออกไป นั่นแสดงว่ามนุษย์สามารถทำดีได้โดยไม่ต้องมาบังคับ หรือข่มขู่ให้ทำดี ถึงจะทำดี มนุษย์มิกลไกที่พระเจ้าสร้างให้รู้ที่จะทำดี
ให้ทัศนะว่า เราในฐานะของมนุษย์มีสิทธิมากน้อยเพียงใด เมื่อโยงเข้ากับเรื่องการทรงสร้าง มนุษย์เป็นผู้ถูกสร้าง มนุษย์ก็ไม่มีสิทธิ เพราะพระเจ้าเป็นผู้สร้าง เป็นเจ้าของมนุษย์ แต่ถ้ามองในแง่มนุษย์มีพระฉายาของพระเจ้า มนุษย์ก็มีสิทธิที่ได้รับมอบมาจากพระเจ้าเพราะเรามีพระฉายาของพระเจ้า มนุษย์ไมใช่เป็นพระเจ้า แต่เป็นตัวแทนของ เสริ หล่อกันภัย ศาสนาจารยี ชนะจิตต์ อิสมันยีตามพระคัมภีร์กล่าวว่า “มนุษย์เป็นผู้ครอบครอง” ในที่นี้ การครอบครอง หมายถึงการที่ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ดูแลในสรรพสิงที่พระเจ้าทรงสร้าง เปรียบง่ายๆ กล่องไฟถ่ายสินค้า กับทำหน้าที่เป็นผู้จัดการ แต่ไมใช่เป็นเจ้าของมีสิทธิหน้าที่รับผิดชอบในการดูแล แต่ขณะเดียวกันก็ต้องรับผิดชอบด้วย ดังนั้นสิทธิมักควบคู่กับความรับผิดชอบ พระเจ้าให้สิทธิมนุษย์ในการดูแลสรรพสิงที่พระเจ้าทรงสร้าง ต้องเอาใจใส่ ไม่ใช่ให้มีอำนาจในการที่จะกดฃี่ ข่มเหงทำลายล้าง แต่เป็นอำนาจที่จะปกครองดูแลสิงต่างๆ ที่พระเจ้าประทานมาให้กับมนุษย์ดูแลในแง่นี้ เรามีสิทธิในชีวิตของเราไหม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรามีสิทธิเลือกที่จะมีชีวิตอยู่
หรือแม้กระทั่งยุติชีวิตเราหรือไม่ หรือยุติชีวิตผู้อื่นได้ไหม?เรื่องนี้จะต้องโยงเข้ามาเกี่ยวกับเสรีภาพ และเสรีภาพของผู้อื่น การทรงสร้างมนุษย์ไม่ได้ให้เป็นหุ่นยนต์ มนุษย์มีความสามารถในการตัดสินใจและการเลือก แต่การเลือกของมนุษย์ก็มีข้อจำกัด ถ้าการเลือกของเราทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน ถือเป็นการละเมิดสิทธิผู้อื่น ในการที่พระเจ้าสร้างมนุษย์และให้มนุษย์ดูแลสรรพสิง พระเจ้ามีเงื่อนไขอยู่บางประการ เช่น บอกว่าอย่ารับประทานผลไม้ที่อยู่กลางสวน นั่นคือ สิทธิหรือเสรีภาพที่กล่าวในพระคัมภีร์ ไม่ได้เป็นสิทธิที่ไม่จำกัด แต่เป็นสิทธิเสรีภาพที่จำกัด สาเหตุเพราะมนุษย์มีคักยภาพจำกัด คือว่า มนุษย์มีขอบเขต สิทธิเสรีภาพจึงต้องมีขอบเขต แม้กระทั่งเรื่องการมีชีวิตของเราหรือของผู้อื่น เพราะมนุษย์ไม่สามารถบอกได้อย่างชัดเจนว่า ถ้าชีวิตอยู่ต่อไปอีกช่วงหนึ่ง อะไรจะเกิดขึ้น เช่นสภาพวิกฤติเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น หรือที่เรียกว่า กล่องไฟledทำเอง ยุค IMF มีคนจำนวนมากตัดสินใจด้วยตนเองในการลงทุน ซื้อบ้าน-รถ จับจ่ายใช้สอย ใช้บัตรเครดิตล่วงหน้า มีสิทธิที่จะใช้เงินอย่างไร นั่นเป็นสิทธิที่คนในประเทศประชาธิปไตยมี แต่การตัดสินใจเราไม่ได้เป็นหลักประกัน 100 เปอร์เซ็นต์ ว่าการตัดสินใจของเราถูกต้อง และหลายคนต้องเผชิญกับความลำบากเพราะการตัดสินใจของเรา หมายความว่า มนุษย์ต้องพร้อมที่จะรับผิดชอบต่อการตัดสินใจนั้นด้วย แต่หลายคนชอบรับสิทธิในการตัดสินใจ แต่ไม่ค่อยรับผิดชอบต่อการตัดสินใจ
เแทรวินทิในกรณีที่เราตัดสินใจว่าจะมีชีวิตอยู่หรือไม่ หลายคนตัดสินใจที่จบชีวิตตนเองในช่วงที่ผ่านมา คิดว่าการฆ่าตัวตายเป็นทางออกที่ดีที่สุด แต่ไม่มีใครคิดว่า ถ้าเขาอยู่ต่ออีกช่วงหนึ่ง เขาอาจจะมีทางออกที่ดีกว่า ที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน ในช่วงนี้ ก็มีเหตุการณ์ที่น่าประหลาดใจว่า สินค้าที่ไม่น่าจะขายได้ แต่กลับขายได้ดีศาสนาจารย์ ชนะจิตต์ อิสมันยี ได้ให้ทัศนะเกี่ยวกับกรณีที่เรามีสิทธิจะทำร้ายคนอื่นถึงชีวิตหรือไม, เรื่องนี้มีหลายประเด็นที่น่าสนใจ ประเด็นหนึ่งคือกฎหมายที่ลงโทษประหารชีวิต กฎหมายนั้นมีสิทธิหรือไม่ หรือมนุษย์มีสิทธิลงโทษใครอย่างนี้หรือไม่ ในพระคัมภีร์เชื่อว่า ลังคมมหาชนโดยภาพรวมเป็นเหมือนผู้แทน เป็นเหมือนกายของพระเจ้า ผ้าฉากสตูดิโอ ในวงการคริสต์เตียนจึงใช้มติมหาชน โดยใช้การเลือกตั้ง เสียงมติมหาชนคือเสียงของพระเจ้า การตัดสินลงโทษประหารชีวิต อาจแสดงได้ว่า เราไม่มีปัญญาที่จะคิดวิธีการที่จะระงับปัญหานั้นได้ เช่นกรณีของซีอุย ที่เป็นโรคจิต กินมนุษย์เป็นอาหารและเราไม่มีปัญญาที่จะรักษาให้หายได้ จึงตัดสินใจหยุดชีวิตซีอุย เพื่อไม่ให้ผู้อื่นเสืยชีวิตเพราะซีอุย เสียงที่ตัดสินใจนี้ถือเป็นมติมหาชน เป็นเสียงที่มาจากพระเจ้า สิทธิตรงนั้นย่อมมี เพื่อรักษาประโยชน์สุขของคนส่วนรวม แต่ถ้าสิทธิส่วนบุคคล จะมืใครมาทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนมากจนทนไม่ได้ ก็ไม่ได้หมายว่าจะมืสิทธิยุติชีวิตของคนคนนั้นได้ ในพระคัมภีร์อิสริยา “เพราะเจ้าประเสริฐในสายตาของเรา” photolightbox ต่อกรณีที่มืผู้หญิงคนหนึ่งถูกข่มขืนแล้วเกิดท้องแม่ย่อมเป็นผู้เจ็บปวด แต่ก็เป็นไปได้เช่นกันว่า เขาอาจจะเติบโตและเป็นคนสำคัญเช่นพระเยซูคริสต์ ในเรื่องนี้ มีความเห็นส่วนตัวว่า นอกเสิย'จากการคลอดจะเป็นอันตรายถึงชีวิตแก่แม่และลูกแล้ว โดยไม่มีวิธีอื่นใดช่วยเหลือจึงทำแท้งได้เสรีภาพดร.เสรี หล่อกันภัย แสดงทัศนะว่า พระเจ้าทรงสร้างเราให้มีเสรีภาพเพราะพระเจ้าไม่ได้สร้างมนุษย์มาให้เป็นทุ่นยนต์ และกลับมาสู่คักยภาพของ
กล่องไฟถ่ายภาพ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น